1-2-1 Meeting BNI คืออะไร? เทคนิคที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
สมาชิก BNI (Business Network International) หลายคน คงคุ้นเคยกับคำว่า “1-2-1 meeting BNI” หรือ “121 BNI” กันอยู่แล้ว แต่คิดว่าเราเข้าใจความหมายและใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่แล้วหรือยัง? บทความนี้จะพาไปเจาะลึกว่า 1-2-1 meeting BNI คืออะไร พร้อมทั้งเทคนิคที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถสร้างคอนเน็กชันและขยายธุรกิจได้อย่างก้าวกระโดด
1-2-1 BNI คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ?
1-2-1 meeting BNI คือ การนัดพบกันแบบตัวต่อตัวระหว่างสมาชิก BNI สองคน เพื่อทำความรู้จักกันให้มากขึ้น แลกเปลี่ยนข้อมูลทางธุรกิจ และมองหาโอกาสในการแนะนำธุรกิจ (Referral) ให้แก่กัน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ BNI ที่จะช่วยให้สมาชิก สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและเชื่อใจกัน โดยเป็นพื้นฐานสำคัญของการส่งต่อลูกค้า
ประโยชน์ที่ได้รับจาก 1-2-1 Meeting BNI
สำหรับสมาชิก BNI การทำ 1-2-1 Meeting BNI ถือเป็นหัวใจสำคัญ เนื่องจากได้รับประโยชน์หลายประการ ดังนี้
- สร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น การพูดคุยแบบส่วนตัว ช่วยให้รู้จักกันลึกซึ้งกว่า การพบกันในห้องประชุม BNI ทั่วไป
- เข้าใจธุรกิจของกันและกัน ทำให้รู้ว่าธุรกิจของเพื่อนสมาชิก ต้องการลูกค้าแบบไหน และจะช่วยแนะนำใครให้กับเขาได้บ้าง จึงจะตรงกับความต้องการ
- เพิ่มโอกาสรับ Referral ยิ่งรู้จักกันมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะได้รับ Referral ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
- ขยายเครือข่ายธุรกิจ ผ่านการแนะนำต่อ ๆ กันไปจากเพื่อนสมาชิกที่รู้จัก
- พัฒนาธุรกิจ การแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างกัน ช่วยให้สามารถพัฒนาธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น
เทคนิค 1-2-1 Meeting BNI ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
เพื่อให้ 1-2-1 Meeting BNI มีประสิทธิภาพสูงสุด ส่งผลดีต่อธุรกิจ มีเทคนิคดังนี้
- เตรียมตัวก่อนการนัดหมาย ศึกษา GAINS profile ของเพื่อนสมาชิกที่จะพบ เพื่อทำความเข้าใจธุรกิจของเขาก่อน เตรียมคำถามที่อยากรู้ และคิดหัวข้อสนทนาที่น่าสนใจ
- ตรงต่อเวลา การตรงต่อเวลาแสดงถึงความเป็นมืออาชีพและความเคารพต่ออีกฝ่าย
- เริ่มต้นด้วยการสร้างบรรยากาศที่ดี พูดคุยเรื่องทั่วไป เพื่อสร้างความคุ้นเคยก่อนเข้าเรื่องของธุรกิจ
- ตั้งคำถามที่เจาะจง เช่น ลูกค้าในอุดมคติของเขาเป็นแบบไหน? เขากำลังมองหาความร่วมมือทางธุรกิจด้านใด? อย่าถามกว้าง ๆ เช่น “ธุรกิจคุณทำอะไร?”
- ฟังอย่างตั้งใจ ให้ความสนใจกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูด จดบันทึกสิ่งสำคัญ และถามคำถามเพิ่มเติมเพื่อแสดงว่าเราใส่ใจ
- แบ่งปันข้อมูลธุรกิจของเราอย่างชัดเจน อธิบายว่าธุรกิจเราทำอะไร ต้องการลูกค้าแบบไหน และสามารถช่วยเหลือธุรกิจของเขาได้อย่างไร
- สรุปสิ่งที่ได้พูดคุย ย้ำถึงสิ่งที่เราเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจของเขา และสิ่งที่เราจะช่วยเหลือเขาได้
- กำหนดแผนการติดตามผล เช่น จะแนะนำลูกค้าให้เขาเมื่อไหร่? จะนัด 1-2-1 ครั้งต่อไปเมื่อไหร่?
- บันทึกข้อมูลการพูดคุย เพื่อใช้ในการติดตามผลและเตรียมตัวสำหรับการพบกันครั้งต่อไป
- อย่าลืม “Givers Gain” หลักการสำคัญของ BNI คือการให้ก่อนที่จะได้รับ มุ่งเน้นที่การช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกก่อน แล้ว Referral จะตามมาเอง
สิ่งที่ไม่ควรทำใน 1-2-1 Meeting BNI
เพื่อไม่ให้การทำ 1-2-1 Meeting BNI สร้างความรู้สึกที่ไม่ดีกับอีกฝ่าย หรือไม่ส่งผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ สิ่งที่ไม่ควรทำคือ
- ขายของอย่างเดียว 1-2-1 meeting ไม่ใช่เวทีขายของ แต่เป็นการสร้างความสัมพันธ์
- พูดแต่เรื่องของตัวเอง แต่ควรให้ความสนใจกับอีกฝ่ายด้วย
- ไม่เตรียมตัว การไม่เตรียมตัว แสดงถึงการไม่ให้ความสำคัญกับอีกฝ่าย
- ไม่ตรงต่อเวลา นับเป็นการเสียมารยาทและทำให้เสียโอกาสหลาย ๆ อย่าง
ตัวอย่างคำถามสำหรับ 1-2-1 Meeting BNI
สำหรับสมาชิกที่ยังไม่รู้ว่าตั้งคำถามแบบไหนจึงจะตรงประเด็น และได้ข้อมูลที่มีคุณค่า มีตัวอย่างคำถามมาให้ดูกัน
- คุณมีลูกค้าในอุดมคติเป็นแบบไหน?
- อะไรคือความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดในธุรกิจของคุณตอนนี้?
- คุณกำลังมองหาความร่วมมือทางธุรกิจด้านใดอยู่?
- ฉันจะช่วยแนะนำใครให้คุณได้บ้าง?
การทำ 1-2-1 meeting BNI ให้มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ต้องเข้าใจหลักการ เตรียมตัวให้พร้อม และลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ ก็จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีต่อธุรกิจของอย่างแน่นอน หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิก BNI สามารถนำเทคนิคไปปรับใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างเครือข่ายและขยายธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้น